ประวัติของแบรนด์
• การก่อตั้งและพัฒนา: Lotus Cars ก่อตั้งขึ้นในปี 1948 โดยโคลิน แชปแมน (Colin Chapman) วิศวกรการบินจากสหราชอาณาจักร แบรนด์นี้มีชื่อเสียงจากการออกแบบที่น้ำหนักเบาและสมรรถนะการควบคุมที่เหนือชั้น ด้วยการออกแบบที่เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ Lotus สามารถคว้าชัยชนะในสนามแข่ง F1 ได้ถึง 81 ครั้ง และได้รับแชมป์โลกประจำปีถึง 7 สมัย
• การเปลี่ยนแปลงของแบรนด์: ในปี 2017 กลุ่มบริษัท Geely Holding ได้เข้าซื้อหุ้น 51% ของ Lotus Cars (Lotus Group) อย่างเป็นทางการและนำแบรนด์เข้าสู่เครือข่ายธุรกิจของตน หลังจากนั้น Lotus ได้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคของพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีอัจฉริยะ
เอกลักษณ์ของแบรนด์
• เทคโนโลยีและการออกแบบ: Lotus Cars มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบน้ำหนักเบาและสมรรถนะสูง โคลิน แชปแมน ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เชื่อมั่นว่า “การลดน้ำหนักคือกุญแจสำคัญของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง” และปรัชญานี้ถูกถ่ายทอดไปตลอดการพัฒนาของแบรนด์ รถรุ่นต่าง ๆ ของ Lotus มักใช้การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงและวัสดุน้ำหนักเบา เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
• รุ่นคลาสสิก: Lotus Cars ได้เปิดตัวรถรุ่นคลาสสิกมากมาย เช่น Elan, Esprit, Elise และ Evora โดย Elise ได้รับการยกย่องว่าเป็น “รถที่มีการควบคุมดีที่สุดในโลก” ในขณะที่ Esprit ถูกมองว่าเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นแรกของอังกฤษโดยแฟนรถบางกลุ่ม
การเปลี่ยนผ่านสู่ไฟฟ้า
• รถไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรก Evija: ในปี 2019 Lotus ได้เปิดตัวรถไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกอย่าง Evija ซึ่งมีพลังงานสูงถึง 2,000 แรงม้า และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 3 วินาที นับว่าเป็นหนึ่งในรถไฟฟ้าผลิตจริงที่ทรงพลังที่สุดในโลกในเวลานั้น
• กลยุทธ์พลังงานไฟฟ้า: ในปี 2021 Lotus Cars ได้ประกาศแผนการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าหมายที่จะผลิตเฉพาะรถไฟฟ้าภายในปี 2028 และได้ก่อตั้ง Lotus Technology เพื่อมุ่งเน้นการวิจัย การพัฒนา และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ
ผลประกอบการในตลาดและมุมมองอนาคต
การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้าของ Lotus ส่งผลให้แบรนด์มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในตลาดโลก ความสำเร็จของ Eletre ในตลาดจีนและยุโรปชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์รถไฟฟ้าของแบรนด์ ในอนาคต Lotus วางแผนที่จะขยายตลาดเพิ่มเติมพร้อมทั้งยกระดับอิทธิพลของแบรนด์
ด้วยการสนับสนุนจาก Geely Lotus ยังคงยึดมั่นในปรัชญาหลักของการออกแบบน้ำหนักเบาและสมรรถนะสูง พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไฟฟ้าและอัจฉริยะเพื่อบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงระดับโลกของแบรนด์ เป้าหมายของ Lotus คือการเป็นผู้นำในตลาดรถไฟฟ้าสมรรถนะสูงและนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ดึงดูดใจยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค
กล่าวโดยสรุป Lotus Cars ด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง สมรรถนะการควบคุมที่ยอดเยี่ยม และวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ด้านพลังงานไฟฟ้า กำลังก้าวไปสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหรูชั้นนำของโลก
ความคิดเห็น